ปัจจุบัน เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตได้พัฒนาไปมาก มีการสร้างเครือข่ายให้เข้าถึงได้ง่าย ทุกที่ ทุกเวลา จนได้ชื่อว่า คนรุ่นใหม่จะมีชีวิตที่ต้องพึ่งพาเครือข่ายนี้ มีวิถีชีวิตที่เชื่อมโยงเข้ากับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่การใช้อีเมล์ การพูดคุย การเซต การสร้างห้องคุยแบบเห็นตัวตน เช่น Cam Frog การสื่อสารแบบเห็นหน้าตา การเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายสังคม เช่น hi5 Face book การ สร้างเวทีแสดงความคิดเห็นแบบบล็อก การแลกเปลี่ยนและเข้าถึงข่าวสารแบบต่างๆ เช่น ยูทิว และยังมีการประยุกต์ใช้งานได้อีกมากมาย หลายอย่าง รวมถึงการเล่นเกมออนไลน์
การ เล่นเน็ต จึงเป็นคำกล่าวแบบรวมๆ ที่หมายถึงการเล่นที่มีการออนไลน์บนเครือข่ายสังคมถือเป็นอีกหนึ่งสื่อ ดิจิตอลที่กำลังมาแรงในกระแสสังคมปัจจุบัน ด้วยอัตราการเติบโตของตลาด เม็ดเงินจากทั่วสารทิศต่างหลั่งไหลเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมนี้เพื่อโอกาสใน การทำกำไร ผลที่ตามมาคือ ยอดผู้ใช้เครือข่ายสังคมที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาที่ผ่านมา ดังตัวอย่างการเล่นเซต เล่นไฮไฟว์ เล่นเกมออนไลน์ ซึ่งผู้บริโภคเหล่านี้ ส่วนหนึ่งก็คือเด็กและเยาวชนไทย ของพวกเรานี่เอง
เมื่อ ทุกสิ่งเปรียบเสมือนดาบสองคม การออนไลน์ที่ดูเป็นเรื่องการสื่อสารที่สะดวกรวดเร็ว เริ่มมีผลกระทบต่อพฤติกรรมของผู้เล่น ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมออนไลน์ที่มีพฤติกรรมการเลียบแบบความรุนแรง การเซต และการเล่น Cam Frog มี การล่อลวง หรือแม้แต่ภาวการณ์ติดเน็ตที่ต้องเสียเวลากับการเล่นเน็ต ทุกสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาที่หลายคนมั่นใจว่าเกิดขึ้นจากการอ อนไลน์ แต่การเล่นเน็ตเป็นตัวปัญหาจริงหรือ? หรือใครกันที่ควรรับผิดชอบปัญหาที่เกิดขึ้นนี้? ว่าที่จริงการเล่นเกมจะว่าเป็นโทษเสียทีเดียวคงไม่ได้ อาชีพของเด็กคือ “เล่น” การเล่นแต่ละยุคสมัย ก็คงต้องเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เราคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น โทรศัพท์มือถือ สังคมยุคไอที เด็กจะเข้าถึงไอที โดยจะมีจุดเริ่มต้นจากการเล่นคอมพิวเตอร์ เกม ก่อนแล้วจึงประยุกต์ไปสู่รูปแบบต่างๆ ทางอินเตอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ จะสอนให้เด็กได้รู้จักการจัดการแบบเป็นระบบ ทำอะไรเป็นระบบ และความชำนาญการเล่นเกม ประโยชน์ของการเล่นเกมอย่างเช่น การใช้เครื่องมือทั้งทางการแพทย์ และอุตสาหกรรม ก็คงหนีไม่พ้นการใช้คอมพิวเตอร์ออนไลน์ เด็กที่เล่นเกมเก่ง ในอนาคตถ้าเป็นแพทย์ก็คงจะมีความสามารถผ่าตัดผ่านกล้อง โดยดูทางโทรทัศน์ ผ่าตัดอวัยวะภายใน และสามารถผ่าตัดทางไกล โดยการควบคุมด้วยปุ่มบังคับต่างๆ ได้ดี
ปัจจุบัน มีเครื่องมือดังกล่าวจำนวนมาก โดยเฉพาะกล้องส่องอวัยวะภายในต่างๆ ถ้าสังคมเข้าใจเด็กและจับสิ่งที่เป็นประโยชน์มาใช้ก็จะมีค่ายิ่ง
ทุก สิ่งทุกอย่างมีประโยชน์และมีโทษ เด็กที่ติดเกมมากก็ย่อมใช้เวลาสูญเสียไปมาก ทำให้เสียการเรียน มีผลทางจิตใจ หมกมุ่นกับเกม ขาดการสนใจสิ่งแวดล้อม
นอก จากทางด้านจิตใจแล้ว ทางด้านร่างกายก็ยังมีผลต่อสุขภาพกาย ขากการออกกำลังกาย ทำให้เกิดโรคอ้วน เกมที่ตื่นเต้นทำให้เกิดความดันโลหิตสูง การจ้องจอนานๆ ตาจะแห้งและอักเสบง่าย การใช้หัวแม่มือกดแป้นหรือปุ่มมากก็จะทำให้เกิดการอักเสบของเส้นเอ็น เรื้อรัง และอาจมีผลต่อระบบประสาท โรคลมชัก รวมทั้งเกิดการปวดเมื่อยจากท่านั่งนานๆ ที่สำคัญคือความเครียด
ทุก สิ่งทุกอย่างมีทั้งข้อดีและข้อเสีย การจะห้ามเด็กออกจากสังคมไอที เกม อินเทอร์เน็ต คงเป็นไปไม่ได้ ทำอย่างไรเพื่อให้เกิดความเหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุด การแก้ไขจะต้องเริ่มต้นที่บ้าน ครอบครัว พ่อแม่ ผู้ปกครอง
ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า